ศธ. เดินหน้า "ลดการบ้าน-เรียนรู้เชิงรุก" เริ่มเทอมหน้า
กระทรวงศึกษาธิการประกาศแนวนโยบายใหม่เพื่อปรับปรุงคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เริ่มใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 ภายใต้แนวคิด "ลดการบ้าน เพิ่มเวลาสำหรับการเรียนรู้เชิงรุกและทักษะชีวิต"
นางสาวจินตนา ภูมิวรรณ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักเรียนในระบบโรงเรียนไทยมีภาระการบ้านมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต การนอนหลับ และการมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างทางการเรียนรู้ระหว่างนักเรียนในเมืองและชนบท

ภายใต้นโยบายใหม่นี้ โรงเรียนจะต้องลดภาระการบ้านลงไม่เกินวันละ 30 นาที และเปลี่ยนไปใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้จริง โดยอาจจัดให้มีโครงงาน (Project-based learning) เป็นรายวิชา หรือการประเมินผ่านกิจกรรมแทนข้อสอบปลายภาค
กระทรวงจะสนับสนุนครูด้วยงบประมาณสำหรับฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้รูปแบบใหม่ เช่น STEAM (Science, Technology, Engineering, Arts, and Mathematics), การเรียนรู้ผ่านปัญหา (Problem-based learning) และการเรียนแบบสืบเสาะ (Inquiry-based learning)
นอกจากนี้ยังจะมีการทดลองใช้ระบบประเมินผลที่ไม่ยึดติดกับคะแนนสอบแต่เน้นพัฒนาการรายบุคคล เช่น แบบประเมินสมรรถนะรายด้าน เพื่อใช้ประกอบการเลื่อนชั้นและวัดความพร้อมของนักเรียนแต่ละคน
องค์กรด้านการศึกษาหลายแห่งแสดงความเห็นเชิงบวกต่อแนวนโยบายนี้ โดยชี้ว่าเป็นก้าวสำคัญสู่การเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 ที่เน้นทักษะชีวิต การแก้ปัญหา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม มีเสียงจากครูและผู้บริหารบางรายแสดงความกังวลต่อภาระการปรับหลักสูตรและระบบประเมินผลใหม่ ซึ่งอาจต้องการเวลาปรับตัวและความช่วยเหลือจากภาครัฐเพิ่มเติม
กระทรวงศึกษาธิการระบุว่า จะมีการประเมินผลเชิงนโยบายทุก 6 เดือน และอาจปรับปรุงแนวทางให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละโรงเรียนในแต่ละภูมิภาค
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



